โรคพาร์กินสัน หรือสันนิบาต
กลุ่มเสี่ยง
1. กลุ่มคนอายุ 20-80 ปี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นในคนอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป
2. พบในเพศชาย มากกว่าเพศหญิง
3. กลุ่มคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นพาร์กินสัน จะมีโอกาสเป็นโรคนี้ประาณ 20%
4. กลุ่มคนที่ได้รับอุบัติเหตุที่ศรีษะมาก่อน
5. กลุ่มคนที่เป็นนักกีฬาที่มีความเสี่ยงกับโรคนี้ เช่น นักมวย
อาการที่พึงระวัง
มีการสั่นที่มือ เท้า คาง และริมฝีปาก เวลาที่อยู่เฉย ๆ แต่พอเคลื่อนไหว อาการสั่นจะน้อยลง จนต่อมาอาการมือสั่นจะเริ่มชัดขึ้น ลักษณะการเดินจะเดินก้าวสั้น ๆ ถี่ ๆ การยืนทรงตัวจะทำได้ค่อนข้างลำบาก และสังเกตุจากการเขียนหนังสือ ผู้ป่วยโรคนี้จะสั่น ทำให้ตัวอักษรเล็ก และเบียดชิดกัน
ลักษณะของโรค
โรคพาร์กินสัน Parkinson"s Disease หรือโบราณเรียกว่า โรคสันนิบาตชักกระตุก เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์สมองบางส่วน ซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างสารโดปามีน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยในการเคลื่อนไหว เมื่อสารตัวนี้ลดระดับลง จึงทำให้เำกิดความผิดปกติในการเคลื่อนไหว
โรคพาร์กินสัน เกิดขึ้นได้เองโดยไม่ทราบสาเหตุ ภายในสมองของคนเรานั้น แบ่งเป็นส่วนเนื้อสมองส่วนบน ก้านสมอง สมองน้อย และใจกลางสมอง คือเป็นส่วนที่ควบคุมหลาย ๆ อย่าง รวมทั้งในส่วนของการเคลื่อนไหวในโรคพาร์กินสัน แต่ส่วนที่เป็นสาเหตุของโรคนี้่ จะอยู่ตรงก้านสมองในส่วนของ substantia nigra เป็นส่วนที่สร้างสารโดปามีน ถ้าเซลล์ในส่วนนี้ตายไป จะทำให้่มีการสร้างสารชนิดนี้ได้น้อยลง การตายของเซลล์สมองส่วนนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุ มีความเชื่อว่าส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากสารอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดการตายของเซลล์ภายในร่างกายขึ้น
โรคพาร์กินสันนี้เกิดจากการที่ความสามารถในการสื่อสารของระบบประสาทลดน้อยลง ส่งผลให้เกิดอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย ในกรณีที่ร้ายแรงมาก ๆ อาจถึงขึ้นต้องนอนรักษาอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล ไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ถือเป็นโรคที่ค่อนข้างยากในการรักษา แต่ก็ยังไม่ถึงกับเป็นโรคที่หายยาก หรือผิดปกติแต่อย่างใด โรคพาร์กินสันสามารถเกิดขึ้นได้ในกลุ่มคนตั้งแต่อายุ 20-80 ปี
อาการมือสั่นที่เกิดขึ้นตอนแรก เป็นสัญญาณเตือนขั้นต้น เนื่องจากโดปามีนมีไม่เพียงพอ จึงทำให้สมองสั่งการไม่ถูกต้อง โดยจะบ่งบอกให้รู้ผ่านทางอาการมือเท้าสั่นเป็นส่วนใหญ่ และการที่ตั้งใจหยุดการสั่นแล้วมือกลับหยุดสั่นได้เอง นั่นก็เป็นหลุมพรางหลุมใหญ่ของโรค
เมื่ออยู่ในภาวะเฉย ๆ อาการสั่นนั้นจะเกิดขึ้นทันที ถือเป็นลักษณะเฉพาะของโรคนี้ และนอกจากนั้นเมื่อเป็นโรคนี้แล้วก็จะยิ่งมีอาการชัดขึ้นทุกที ยิ่งเมื่ออายุมากขึ้น ก็จะสามารถสังเกตุอาการสั่นได้ง่าย อาจเกิดอาการใบหน้าไร้ความรู้สึกขึ้น เป็นเพราะความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากการสั่งการของกล้ามเนื้อ ส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อของใบหน้าด้วยเช่นกัน
ในที่สุดโรคก็พัฒนาไปถึงขั้นร้ายแรงจนถึงขั้นสุดท้าย เมื่อไม่สามารถพาร่างกายขยับไปไหนได้ ต้องทานยารักษาพร้อม ๆ กับการทำกายภาพบำบัดไปด้วย ตอนนี้ก็ยังไม่พบวิธีการรักษาที่แน่นอน แต่การทานยาก็จะช่วยควบคุมอาการของโรคได้
วิธีการรักษา
1. การทานยา เพื่อเติมโดปามีนที่หายไปในรูปของยาทดแทน
2. การผ่าตัด เพื่อควบคุมอาการ ไม่ได้ทำให้หายขาด หรือไม่ต้องทานยา เพียงแต่สามารถลดขนาดยาที่ใช้ลงได้
รู้ไว้ ห่างไกลโรค
1. หลีกเลี่ยงการเกิดปัจจัยเสี่ยง เช่น อุบัติเหตุ หรือการกระทบกระแทกที่ศรีษะอย่างรุนแรงบ่อย ๆ
2. พยายามหลีกเลี่ยงสารเคมี สารพิษ เช่น ยาฆ่าแมลงต่าง ๆ ยาปราบศัตรูพืช
(ที่มา : เวิร์คพอยท์, รู้ไว้ ไกลโรค, ข้อมูลทางการแพทย์ : คณะแพทย์ เครือโรงพยาบาลพญาไท, sep 2013)
คำถาม-คำตอบ ผู้มีปัญหา... พาร์กินสัน
โดย รศ.ดร.ภญ.อำไพ ปั้นทอง