ภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Aids)

ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Aids) จากการติดเชื้อไวรัส HIV

วิวัฒนาการล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์ไทยเกี่ยวกับการสร้างสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน โดยได้ทำการทดสอบผลิตภัณฑ์ Operation Bim ต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้สามารถอธิบายถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ bim100 ในการสร้างสมดุลของภูมิคุ้มกันวิทยาล่าสุด

ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS) มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส HIV จากทางเพศสัมพันธ์ ทางเลือก เช่น การถ่ายเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การสัก การเจาะหู ร่วมกับผู้ติดเชื้อ หรือการติดต่อจากมารดาที่ติดเชื้อสู่ทารก ตั้งแต่ระยะอยู่ในครรภ์ ระยะคลอด และระยะเลี้ยงดูหลังคลอด

เมื่อเชื้อนี้เข้าสู่ร่างกาย จะไปฝังตัวในเม็ดเลือดขาวชนิด CD4+ (Th-Cell) เพื่อแบ่งตัวเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ และทำลาย CD4+ (Th-Cell) จนมีจำนวนลดลงต่ำกว่า 350 เซลล์/ลบ.มม. (คนปกติมีค่า CD4+ 600 - 1000 เซลล์ต่อเลือด 1 ลบ.มม.) ถือว่าเป็นระดับที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำมาก และผู้ติดเชื้อนี้ยังมีค่า Th1, Th2, Th17 และ Treg ในปริมาณที่ต่ำเช่นกัน (โดยมี Th17 ต่ำสุด) ส่งผลให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อวัณโรค และเป็นมะเร็งได้ง่ายกว่าคนปกติ ปัจจุบันแนวทางการรักษาคือการหยุดยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส HIV โดยการใช้ยาต้านไวรัส ซึ่งอาจจุมีผลข้างเคียงของยากลุ่มนี้ เช่น เวียนศรีษะ อ่อนเพลีย ท้องเสีย ฝันร้ายใน 1-2 สัปดาห์แรก เป็นต้น หรืออาจจะไม่มีผลข้างเคียงจากยากลุ่มนี้เลยก็เป็นได้ แต่ทว่า เมื่อใช้ยาต้านไวรัสไปสักระยะหนึ่งอาจก่อให้เกิดการดื้อยาขึ้นมาได้ เนื่องจากในกระบวนการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส HIV มีโอกาสที่เชื้อตัวใหม่มีลักษณะที่ผิดเพี้ยนไปจากเชื้อตัวเดิม ยาต้านไวรัสเดิมที่เคยใช้อยู่จึงไม่ได้ผล มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นยาต้านไวรัสชนิดใหม่ๆ ไปเรื่อย ๆ

จากข้อมูลทางภูมิคุ้มกันวิทยาพบว่า ภูมิคุ้มกันที่สมดุล ขึ้นอยู่กับการทำหน้าที่อย่างสมดุลของเม็ดเลือดขาวทั้ง 4 ชนิด คือ

1. Th1 ทำหน้าที่กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจัดการกับเชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส และมะเร็งได้ดีขึ้น

2. Th2 ทำหน้าที่กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจัดการกับสารก่อภูมิแพ้ และหนอนพยาธิได้ดีขึ้น

3. Th17 ทำหน้าที่กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจัดการกับสิ่งแปลกปลอมทั้งหลายที่เหลือจากการจัดการของ Th1 และ Th2

4. Treg ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของ Th1, Th2, Th17 ให้อยู่ในระดับสมดุล จึงลดอาการแพ้ภูมิตัวเอง และข้อมูลล่าสุด Treg ยังทำให้เชื้อไวรัส HIV แบ่งตัวช้าลงด้วย

คณะนักวิจัย Operation Bim (หรือ ผลิตภัณฑ์ bim100) ได้วิจัย และพัฒนาสารเสริมประสิทธิภาพจากสารมังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และบัวบก จนได้แคปซูลเสริมอาหาร ที่พิสูจน์โดยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์แล้วว่า สามารถกระตุ้นการทำงานของ Th1 เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า, กระตุ้น Th17 เพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่า และ กระตุ้น Treg เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า  ล่าสุดยังพบว่า IL-9 ที่เพิ่มมากขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์สามารถเพิ่มความสามารถในการจัดการกับสิ่งแปลกปลอมโดยไม่มีผลข้างเคียง และข้อมูลเบื้องต้นของการทดสอบในผู้ติดเชื้อ พบว่า ภายใน 1 เดือน ไม่พบการติดเชื้อราในช่องปาก และภายใน 2 เดือน ผู้ที่มีค่า CD4+ ต่ำกว่า 100 เซลล์/ลบ.มม. เพิ่มเป็น 300 เซลล์/ลบ.มม.

 

ประสบการณ์ผู้ใช้ผลิคภัณฑ์ งานวิจัย Operation Bim

 


ภาวะ Hiv สงบ รายที่ 3 ของโลก

 


ภูมิสมดุล BHC

 


งานวิจัย HIV


ผู้ติดเชื้อ HIV ที่เคยมี CD4 เหลือ 0


นักวิทยาศาสตร์ค้นพบสารต้านโรคเอดส์


เอดส์หาย ?


กรณีศึกษาของผู้ที่ไม่ได้รับยาต้านไวรัส


งานวิจัย APCO สำหรับผู้ติดเชื้อ


APCO งานวิจัยเพื่อเพิ่ม CD4 ให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น 1


APCO งานวิจัยเพื่อเพิ่ม CD4 ให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น 2


APCO เปิดตัวการค้นพบสารต้านโรคเอดส์


APCO ช่วยเหลือสังคม ดูแลผู้ติดเชื้อ HIV (โรคเอดส์)


งานวิจัย Apco สารสกัดจากพืชไทย
เพิ่มคุณภาพชีวิต ผู้ป่วย HIV


งานวิจัย APCO กับผู้มีปัญหาติดเชื้อ


ผู้ติดเชื้อ HIV ที่ใช้ยาต้านไวรัสร่วม APCO cap


งานวิจัย APCO รายการสุขและสวย


สัมภาษณ์กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ดอยสะเก็ด ตอนที่1


สัมภาษณ์กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ดอยสะเก็ด ตอนที่2


สัมภาษณ์กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ดอยสะเก็ด ตอนที่3


ข่าวช่องวัน
สมุนไพรไทย สู่นวัตกรรมยาเพิ่ม CD4